Last updated: 8 ก.ย. 2565 | 19164 จำนวนผู้เข้าชม |
ร้านชาบู-สุกี้เป็นเมนูที่หลายคนต่างให้ความสนใจ ซึ่งถ้าอยากจะเปิดร้านชาบู-สุกี้ ต้องมีความรู้ ความสามารถในการวางแผนการจัดการ การแก้ไขปัญหา เรามาดูกันดีกว่าว่าเทคนิคลับที่จะเปิดร้านชาบู-สุกี้อย่างไรให้ลูกค้าติดใจที่อยากจะกินชาบูของร้านเราอย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกเบื่อ วัตถุดิบพวกเนื้อวัว เนื้อหมู ผักสดต้องมีคุณภาพ น้ำซุป น้ำจิ้ม บรรยากาศภายในร้าน ต้องเป็นเอกลักษณ์ในการกินชาบูที่เป็นแหล่งรวมครอบครัว เพื่อน ให้ได้มาเจอกัน แนวทางในการทำให้ลูกค้าติดใจธุรกิจชาบู-สุกี้ มีดังนี้
1.คุณภาพของวัตถุดิบ คือ เนื้อสัตว์ที่เหมาะกับการกินชาบูจำพวกเนื้อหมู เนื้อวัว ต้องสไลซ์บาง มีสีที่สดใหม่ ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว และนิยมใช้ผักสด เช่น ผักกาดขาว เห็ดหอม ต้องสะอาด ไม่มีวัตถุเจือปนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนวัตถุดิบที่เหมาะกับการกินสุกี้ พวกเนื้อสัตว์ไม่ต้องสไลซ์บาง เพราะการกินสุกี้นั้นแตกต่างกับการกินชาบู โดยสุกี้จะต้มวัตถุดิบต่างๆลงไปรวมกันในหม้อทีเดียว ส่วนชาบูจะต้มผักก่อนเพื่อน้ำจะได้มีความหวานของผัก รอจนน้ำเดือดจึงนำเนื้อสัตว์ทีละชิ้นมาลวกแล้วกิน รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม
2.รสชาติความอร่อยของน้ำจิ้มชาบู-สุกี้และซอสน้ำซุป คือ หัวใจสำคัญในการทำร้านชาบู-สุกี้ เลยก็ว่าได้ ทีเด็ดในการกินชาบู-สุกี้ เมื่อลูกค้าลวกเนื้อสัตว์ให้สุกแล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดก็จะเป็นการเพิ่มความอร่อย ทำให้เนื้อมีความกลมกล่อมมากขึ้น น้ำจิ้มชาบู-สุกี้ จะต้องเป็นเอกลักษณ์ของร้านและมีความหลากหลาย เพราะบางคนชอบน้ำจิ้มรสแซ่บ ต้นตำหรับ ต้องเป็นสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดที่ทำให้ลูกค้าคิดใจ สำหรับน้ำซุปชาบู เมื่อกินชาบู-สุกี้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องทำคือ ซดน้ำซุปของชาบู-สุกี้ ซึ่งต้องมีรสชาติที่หอมกลมกล่อม และมีความเด่นหลากหลายของน้ำซุปชาบู-สุกี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปชาบูน้ำดำ น้ำซุปหมาล่า น้ำซุปทงคัตสึ ลูกค้าที่ไปกินร้านชาบู-สุกี้ จะมีสไตล์การกินที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นเราต้องมีหลายทางเลือกสำหรับลูกค้า
3.เมนูมีความหลากหลายและมีความคิดสร้างสรรค์ คือ เวลาลูกค้าไปกินร้านชาบู-สุกี้ ก็จะอยากเลือกพวกวัตถุดิบที่ไม่จำเจ หรือที่เราเห็นร้านชาบู-สุกี้ จะมีเมนูของทานเล่นให้ได้กินระหว่างทานชาบู-สุกี้ เพื่อที่จะไม่รู้สึกเบื่อถ้าต้องกินชาบู-สุกี้ อย่างเดียวภายในเวลาหลายชั่วโมง ทางร้านชาบู-สุกี้จึงต้องรู้จักสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ หรือหาวัตถุดิบมามิกซ์กัน เป็นการสร้างความโดดเด่นอีกแบบหนึ่งให้กับร้าน
4.การตั้งราคาให้รู้สึกว่าคุ้มค่า และมีแคมเปญโปรโมชั่น คือ เวลาร้านชาบู-สุกี้ มักจะตั้งราคาลงท้ายเลข 9 เช่น ราคา 299 จนไปถึงราคา 999 บาท เขาว่ากันว่าเป็นการตั้งราคาด้วยจิตวิทยา ที่ทำให้ราคานี้ไม่แพง สามารถกินได้บ่อยๆ และบุฟเฟต์ชาบู-สุกี้ส่วนใหญ่จะตั้งแคมเปญ โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าเลือกที่จะเข้าร้านเรา เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับร้าน เช่น แคมเปญที่ร้านชาบู-สุกี้ ที่ส่วนใหญ่มักชอบใช้กัน คือ โปรโมชั่นส่วนลดที่ร้านชอบมี มา 4 จ่าย 3 หรือแม้กระทั่งจัดเมนูอาหารตามเทศกาลต่างๆ สร้างความโดดเด่นความพิเศษให้กับร้านชาบู-สุกี้มากขึ้นด้วย
5.การบริการที่สร้างความประทับใจต่อลูกค้า คือ เมื่อร้านชาบู-สุกี้ของเรามีคุณภาพทางด้านอาหารแล้ว ที่ขาดไม่ได้ คือต้องมีการบริการที่ดี พนักงานให้ความร่วมมือ รู้จักช่างสังเกต ใส่ใจลูกค้า สร้างความเป็นกันเอง ยิ้มแย้ม พูดจาด้วยคำสุภาพ และร้านชาบู-สุกี้ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารต่างๆ ต้องสะอาด ไม่มีแมลง เศษขยะตามพื้น
การที่จะลงทุนในการเปิดร้านชาบู-สุกี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดจะเปิดก็สามารถเปิดได้เลย จำนวนเงินในการลงทุนทำร้านชาบู-สุกี้ ต้องใช้เงินประมาณ 100,000 บาท อันนี้ยังไม่รวมพวกค่าทำเลที่ตั้งในการเปิดร้านชาบู-สุกี้ อุปกรณ์ วัตถุดิบต่างๆ ค่าตกแต่งร้านเพื่อสร้างบรรยากาศในการเข้ามากินชาบู-สุกี้หากรวมค่าต่างๆในการเปิดร้านชาบู-สุกี้ ก็ต้องใช้เงินเยอะมาก อาจจะใช้เงินลงทุนประมาณ 800,000 เลยก็ได้ เพราะในการทำร้านชาบู-สุกี้ เราต้องเน้นไปที่ วัตถุดิบต้องมีความหลากหลาย เลือกวัตถุดิบพวกเนื้อวัว เนื้อหมู ซีฟู้ด ผักสดที่มีคุณภาพ รสชาติอาหารเป็นหลักก่อน ทำเลที่ตั้งของร้านชาบู-สุกี้ ต้องเป็นแหล่งที่มีชุมชนอยู่เยอะยิ่งจะได้เปรียบในการขาย ถ้าทำเลที่ตั้งดี ค่าใช้จ่ายก็คงจะแพงขึ้นตามด้วย เราอาจจะต้องลองเสี่ยงในการจ่ายค่าที่แพงเพื่อที่จะได้มีลูกค้าในปริมาณที่เยอะขึ้น อีกทั้งต้องมีเงินสำรองเผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆภายในร้านชาบู-สุกี้ เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าแรงงานของพนักงาน สิ่งที่เราต้องรู้อีกอย่างคือ การบริหารต้นทุนในการเปิดร้านชาบู-สุกี้ อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ประกอบการใหม่ หลายคนที่ไม่รู้วิธีการบริหารว่าจะต้องลงทุนเท่าไหร่ ลงทุนอะไรบ้างก็มักจะนำเงินไปลงทุนกับสิ่งที่ไม่ได้จำเป็นสักเท่าไหร่ ไม่ได้คิดถึงเงินที่ต้องนำไปหมุนเวียนจนอาจทำให้ธุรกิจชาบู-สุกี้ เกิดความผิดพลาด ดังนั้นเราจึงอยากแบ่งปันหลักในการคำนวณต้นทุนต่างๆที่ต้องใช้ในการเปิดร้านชาบู-สุกี้ ดังนี้
การคำนวณพวกต้นทุนต่างๆสำหรับการเปิดร้านชาบู-สุกี้ จะมีสูตรในการคำนวณ โดยต้นทุนในส่วนของอาหาร ควรอยู่ในช่วง 25-30 % , ต้นทุนแรงงาน ควรอยู่ในช่วง 15-25 % , ต้นทุนคงที่ เช่น พวกค่าเช่าที่ ค่าแรงงานพนักงาน ควรอยู่ในช่วง 15-20 % , ต้นทุนแปรผัน เช่น พวกวัตถุดิบในการทำชาบู-สุกี้ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าขนส่ง ควรอยู่ในช่วง 10-15 % ถ้าจะต้องอธิบายให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าตั้งยอดขายไว้วันละ 20,000 บาท ต้นทุนอาหารไม่ควรเกิน 7,000 บาท และต้นทุนแรงงานไม่ควรเกิน 5,000 บาท เป็นต้น
การที่เราเปิดร้านชาบู-สุกี้ ส่วนใหญ่จะเริ่มจากขนาดเล็ก ซึ่งต้นทุนไม่ค่อยสูงมากเท่าไหร่ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้รู้จักการนำกำไรไปต่อยอดร้านชาบู-สุกี้ ให้โตขึ้น โดยเริ่มจากการขยายพื้นที่ร้านให้ใหญ่ขึ้น แต่ถ้าหากเงินทุนไม่เพียงพอก็ไม่แนะนำให้ขยายพื้นที่ในร้าน ควรดูความเป็นไปได้ว่าลูกค้าเยอะเพียงพอที่เราจะขยายหรือไม่ รวมไปถึงการจัดการด้านระบบต่างๆต้องมีคุณภาพด้วย การลงทุนที่จะเปิดร้านชาบู-สุกี้ ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีคนหันมาลงทุนทำธุรกิจกันเยอะพอสมควร เพราะร้านชาบู-สุกี้เป็นที่นิยม คนส่วนใหญ่ก็มันจะชอบกินอยู่แล้ว ทำให้เรื่องฐานลูกค้าไม่ค่อยมีปัญหามากนัก แต่ที่สำคัญคือการที่จะประกอบธุรกิจชาบู-สุกี้ ต้องมีประสบการณ์มากพอ หากคิดว่ายังไม่มีประสบการณ์ในการเปิดร้าน ก็ควรใช้วิธีการลงทุนกับพวกแฟรนไชส์ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องลงทุนเยอะ ได้ลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากพอ โอกาสในการเสี่ยงก็น้อยลง ถ้าเกิดมีความรู้ในเรื่องการลงทุน และมีความมั่นใจมากพอก็ค่อยคิดเรื่องที่จะลงทุนเปิดเป็นธุรกิจชาบู-สุกี้เป็นของตนเอง
ทุกคนอยากรู้ไหมคะว่าชาบูเสียบไม้ต้องลงทุนเท่าไหร่ วันนี้เราจะมาบอกให้ทุกคนได้รู้กันเลย ต้องบอกก่อนว่าชาบูเสียบไม้กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ ซึ่งยังคงเป็นกระแส พ่อค้าแม่ค้าก็หันกันมาทำธุรกิจชาบูเสียบไม้กันเยอะขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เนื่องจากวัตถุดิบที่จะนำมาทำเป็นชาบูเสียบไม้มีความหลากหลาย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าที่ชอบกินชาบูแต่อยากซื้อกลับไปกินที่บ้าน หรือแม้กระทั่งสั่งแบบDelivery ก็สามารถหาซื้อได้ง่าย การที่วางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านชาบูเสียบไม้เป็นไอเดียที่ดี เพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่ชื่นชอบการกินชาบู ซึ่งเป็นเมนูที่หลายๆคนรู้จักเป็นอย่างดี จึงไม่เสียหายถ้าคิดอยากจะลงทุนกับธุรกิจชาบูเสียบไม้
การที่เราอยากจะเปิดธุรกิจชาบูเสียบไม้ ต้องคำนึงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของวัตถุดิบที่จะนำไปทำเป็นชาบูเสียบไม้ ที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายสไตล์ ความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นต่างกัน ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่เบื่อที่จะกินชาบูเสียบไม้ ต่อมาที่ตั้งในการเปิดร้าน เราต้องเลือกทำเลให้ดี แหล่งที่มีคนชุมชนเยอะๆ เช่น เปิดร้านขายที่ตลาด ใกล้สถานศึกษา และใกล้คนที่ทำงาน การดูแลเรื่องต้นทุน จัดสรรงบให้คลอบคลุมในการทำธุรกิจชาบูเสียบไม้ ทั้งวัตถุดิบ ค่าแรงงานพนักงาน อุปกรณ์ในการทำชาบู จนไปถึงการหมุนเสียนเงินค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และสุดท้ายต้องมีสูตรในการทำน้ำซุปชาบู หรือซอสน้ำซุปชาบู เป็นหลักสำคัญอีกอย่างนึงเลย ถ้าน้ำซุปชาบูอร่อย รสชาติเด็ดเข้าถึงลูกค้า และมีความหลากหลายของน้ำซุปชาบู ก็จะทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกจำเจที่จะเลือกกินร้านเราบ่อยๆ
สิ่งที่คนอยากรู้กันว่าในการเปิดร้านชาบูเสียบไม้นั้นต้องลงทุนเท่าไหร่ จะได้กำไรหรือไม่ ทางเรามีคำตอบให้ค่ะ การที่จะลงทุนชาบูเสียบไม้นั้นจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 5000 – 10000 บาท เพื่อที่จะเปิดธุรกิจร้านชาบูเสียบไม้ ในตลาดตั้งโต๊ะขาย เปิดร้านเล็กๆ โดยเราต้องรู้จักแบ่งงบสำหรับการซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำชาบูเสียบไม้ อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือกำไรในการเปิดธุรกิจชาบูเสียบไม้ ส่วนใหญ่คนที่ขายชาบูเสียบไม้มีกำไรต่อวันมากกว่า 500 – 1000 บาท ซึ่งก็จะมีความเกี่ยวข้องกับทำเลที่ตั้งในการเปิดร้านขายชาบู รวมถึงพวกรสชาติน้ำซุป ความหลากหลายของวัตถุดิบ และอีกอย่างที่เป็นหลักสำคัญ คือ การบริการในการขาย ที่ต้องมีความเป็นกันเอง ยิ้มแย้ม พูดจาสุภาพ บริการด้วยความเต็มใจ
หลายๆคน อยากรู้ไหมว่าเคล็ดลับการกินชาบูให้อร่อย ฟิน ถูกวิธีให้เหมือนกินชาบูแบบสไตล์ญี่ปุ่น ทางเรามีขั้นตอนการกินง่ายๆ มาดูกันว่าขั้นตอนที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้ มีอะไรบ้าง สามารถนำวิธีที่เราแนะนำไปทำตามกันได้เลย
ขั้นตอนแรก คือ ตั้งหม้อชาบู ใส่น้ำซุปแล้วรอให้น้ำซุปเดือดจากนั้น ใส่ผักสดตามใจชอบ เนื่องจากผักเป็นสิ่งที่สุกยากกว่าพวกเนื้อสัตว์ จากนั้นต้มผักทิ้งไว้สักครู่ จนผักเริ่มเปื่อย เป็นการเพิ่มรสชาติของน้ำซุปให้หวาน เข้มข้นขึ้น ทำให้เราสามารถทานผักได้ง่ายและอร่อยเข้ากับน้ำซุปได้ดี
ขั้นตอนที่สอง คือ การใส่เนื้อสัตว์ลงไปในหม้อชาบู คือขั้นตอนหลัก การจุ่มเนื้อสัตว์ต่างๆ หลายคนอาจจะคิดว่าการกินชาบู คือ การนำเนื้อสัตว์ใส่ลงในหม้อทีเดียว แล้วตักขึ้นมากิน แต่นั่นคือความคิดที่ผิด เพราะการที่เราอยากได้รสชาติของเนื้อสัตว์ที่ดี ต้องคีบเนื้อสัตว์ชิ้นบางๆลงไปจุ่มทีละ 1 ชิ้น แล้วจุ่มลงไปในหม้อที่เดือด ประมาณ 15 วินาที ขึ้นอยู่กับขนาดความหนาบาง และความสุกของเนื้อสัตว์ ที่เราชื่นชอบ เพื่อที่จะได้ลิ้มรสสัมผัสความอร่อย นุ่ม หอมหวาน จากเนื้อสัตว์ได้อย่างแท้จริง แล้วนำเนื้อสัตว์ที่สุกตามใจชอบเรา ไปจุ่มลงในน้ำจิ้มชาบูจากนั้นก็จะมีความสุขที่ได้ทานชาบู
ขั้นตอนที่สาม คือ การเลือกน้ำจิ้มรสเด็ดที่เราชื่นชอบ ซึ่งน้ำจิ้มแต่ละสูตร ก็มีรสชาติ สไตล์ ที่อร่อยแตกต่างกัน น้ำจิ้มชาบูในท้องตลาดมีหลากหลาย เช่น น้ำจิ้มงา น้ำจิ้มพอนสึ น้ำจิ้มชาบู น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มแจ่ว แต่ถ้าให้พูดถึงแบรนด์เพียวฟู้ดส์ของเรามีทั้งหมด 4 สูตร ให้ลอง ได้แก่ น้ำจิ้มงา น้ำจิ้มชาบูสไตล์ญี่ปุ่น น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มแจ่วอีสาน แต่น้ำจิ้มหลักในการกินชาบูก็คือ น้ำจิ้มงา น้ำจิ้มชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 2 รสชาตินี้มีความอร่อย ที่ไม่เหมือนกัน แต่เป็นน้ำจิ้มที่ทำให้ได้รสชาติของวัตถุดิบอย่างแท้จริง เคล็ดลับความอร่อยอีกอย่างสำหรับคนที่ชื่นชอบลองอะไรใหม่ๆ ก็คือ หลังจากที่นำเนื้อสัตว์ที่สุกแล้วไปจิ้มในน้ำจิ้ม จากนั้นก็นำไปจุ่มลงในไข่ดิบ แล้วทานได้ทันที ซึ่งการกินในรูปแบบใหม่จะทำให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของเนื้อสัตว์ได้อย่างดี แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกินไข่ดิบ เพราะบางครั้งอาจจะมีกลิ่นคาวของไข่
ขั้นตอนที่สี่ คือ การที่ได้ซดน้ำซุปจากหม้อชาบู เป็นสิ่งที่หลายๆคนชื่นชอบ ซึ่งน้ำซุปแต่ละรสชาติจะให้ความอร่อยที่ไม่เหมือนกัน หลากหลายสไตล์ สิ่งที่ไม่ควรพลาดในการกินชาบูก็คือได้ตักน้ำซุปร้อนๆ แล้วซดน้ำซุปด้วยความอร่อย จะทำให้ทานชาบูได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้เกิดการเลี่ยนเมื่อได้กินเนื้อสัตว์ คำเตือนอย่าซดน้ำซุปชาบูจนอิ่มก่อนกินเนื้อล่ะ
ขั้นตอนที่ห้า คือ การได้ลองกินข้าวต้ม หลังจากกินชาบูเสร็จ หลายๆคนอาจจะสงสัยกันว่า มันคือยังไง ถึงแม้ว่าเราจะอิ่มจากการกินชาบู แต่ก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองกินข้าวต้มชาบู เพราะในตอนที่เราต้มเนื้อสัตว์และผักลงไป จะทำให้น้ำซุปเหลือน้อยลง ซึ่งเป็นการเพิ่มให้รสชาติของน้ำซุปมีความเข้มข้นมากขึ้น ทางเราจึงอยากแนะการนำข้าวมาประยุกต์ลงในน้ำซุปชาบู ให้กลายเป็นข้าวต้มชาบูนั่นเอง โดยใส่ข้าวสวยลงไปในหม้อชาบู แล้วใส่ไข่ผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำจิ้มชาบู โรยต้นหอมลงไป เพียงแค่นี้ก็จะได้ลองกินข้าวต้มชาบูรูปแบบใหม่ แสนอร่อย ด้วยการกินชาบูแบบต้นตำหรับสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าถ้าอยากกินชาบู ไม่จำเป็นต้องออกไปทานที่ร้านแล้วนะ สามารถทำชาบูกินที่บ้านได้ไม่วุ่นวาย วันนี้ทางเรามีเคล็ดลับการทำชาบูมาบอกทุกคนด้วย ยิ่งคนที่เป็นสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะทำกินกันในครอบครัว หรือว่ากินกับเพื่อนๆที่หอ ต้องห้ามพลาดกับเคล็ดลับดีๆที่บอกต่อก็สามารถทำกันได้ เพียงแค่มีซอสน้ำซุปชาบู รสชาติเข้มข้น หอมกลมกล่อม กินกับผักสด เนื้อสัตว์สไลซ์บาง พร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด ต่อไปเราก็จะบอก 3 Step ง่ายๆในการทำชาบูที่บ้าน
Step 1 คือ การทำน้ำซุปชาบู โดยเราจะต้องเทน้ำเปล่าลงไปในหม้อก่อน แล้วรอน้ำเดือด จากนั้นใส่ซอสน้ำซุป ตราเพียวฟู้ดส์ เช่น ซอสชาบูน้ำดำ ซอสทงคัตสึ ซอสหมาล่า เป็นต้น เพียงง่ายๆแค่ถุงเดียว น้ำซุปชาบูของเราก็จะกลมกล่อมโดยที่ไม่ต้องไปปรุงรสเพิ่ม
Step 2 คือ เอาผักสดใส่ลงไปในหม้อชาบู วัตถุดิบเครื่องเคียงต่างๆ พวกลูกชิ้น ปูอัด แล้วตามด้วยเนื้อสัตว์ที่หั่นสไลซ์ชิ้นบางแบบทีละนิด สำหรับกินทันที เพราะเนื้อสัตว์เป็นแบบชิ้นบางสุกง่าย แนะนำให้จุ่มเนื้อสัตว์ลงในหม้อชาบู รอจนสุกแล้วหยิบขึ้นมากินทันที จากนั้นจะเป็นการเตรียมวัตถุดิบและน้ำจิ้ม โดยเราจะต้องเทน้ำจิ้มชาบู ตราเพียวฟู้ดส์ ลงไปในถ้วย เพื่อเตรียมไว้จิ้มกับพวกวัตถุดิบที่ต้มอยู่ในหม้อชาบู
Step 3 คือ การจัดเสิร์ฟ เพียงแค่คีบผัก เนื้อสัตว์มาจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด ตราเพียวฟู้ดส์ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แล้วแต่สไตล์การกินของแต่ละคน จากนั้นก็ซดน้ำซุปชาบูที่แสนหอมอร่อย เพียงแค่ 3 Step ง่ายๆทำได้ที่บ้าน แถมประหยัดงบ เวลา ไม่จำเป็นต้องไปทานถึงที่ร้าน เราก็จะได้กินชาบูได้อย่างมีความสุข ลองทำตามกันดูนะคะ
สิ่งที่ทุกคนรู้กันดีว่าชาบู-สุกี้ ที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็ คือ น้ำจิ้มรสเด็ด นั่นเอง ซึ่งในท้องตลาดมีขายน้ำจิ้มชาบู-สุกี้มากมายหลายแบรนด์ แต่แบรนด์ที่อยากแนะนำที่สุดก็คือ แบรนด์เพียวฟู้ดส์ จะมีหลายสูตรเด็ดให้เลือกมากมายเหลือเกิน แล้วแบบนี้จะเลือกอย่างไร ทางเรามีคำตอบค่ะ ก่อนที่เราจะเลือกซื้อน้ำจิ้มชาบู-สุกี้ มาดูกันเลยดีกว่าว่าน้ำจิ้มชาบู-สุกี้มีกี่แบบ และมีความแตกต่างกันอย่างไร
น้ำจิ้มชาบูมีหลายสูตร แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมและรสชาติ น้ำจิ้มชาบูที่คนส่วนใหญ่ไปกินชาบูแล้วต้องกิน คือ น้ำจิ้มงา น้ำจิ้มพอนสึ และน้ำจิ้มชาบู แต่ละสูตรจะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันดีกว่าว่าน้ำจิ้มชาบูที่อยากแนะนำ มีสูตรอะไรบ้าง
น้ำจิ้มชาบูแบบแรก คือ น้ำจิ้มงา (โกมะดาเระ) คือ น้ำจิ้มที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นแท้ เป็นน้ำจิ้มชาบูที่มีลักษณะข้น มีความหอมจากกลิ่นของงาคั่วบด ซึ่งน้ำจิ้มงาจะทานคู่กับชาบู โดยนำเนื้อสัตว์ที่ลวกแล้วไปจิ้มกับน้ำจิ้มงา นั่นเอง นอกจากจะได้ความหอมของงาคั่วบดแล้ว น้ำจิ้มงายังเป็นตัวดึงรสชาติของวัตถุดิบพวกเนื้อสัตว์ ผักต่างๆ ได้ดีอีกด้วย นอกจากทานน้ำจิ้มงาคู่กับชาบูแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าสามารถนำน้ำจิ้มงาทานคู่กับสลัดได้ด้วย เราจึงอยากจะแนะนำน้ำจิ้มชาบู สุกี้ รสงาคั่วสไตล์ญี่ปุ่น มาดูกันเลยว่าน้ำจิ้มชาบูของเพียวฟู้ดส์สูตรนี้จะมีรสชาติอย่างไร น้ำจิ้มชาบู สุกี้ รสงาคั่วสไตล์ญี่ปุ่น มีรสชาติที่หวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของงาคั่วบด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นแท้ สามารถนำมาทานคู่กับอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะทานคู่กับชาบู เคล็ดลับความอร่อย ยิ่งได้นำเนื้อสัตว์ไปจิ้มกับน้ำจิ้มชาบู สูตรงาคั่วสไตล์ญี่ปุ่น ตราเพียวฟู้ดส์ ก็จะทำให้ได้ลิ้มรสชาติของเนื้อสัตว์กับน้ำจิ้มชาบูที่อร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัว น้ำจิ้มชาบูสูตรนี้เด็กสามารถทานได้ รสชาติที่แปลกใหม่ถูกปากคนไทย ซึ่งน้ำจิ้มชาบู สูตรงาคั่ว จะมีทั้งขนาด 150 กรัม และ 850 กรัม สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 6 เดือน ถ้าใครอยากลิ้มรสความอร่อยของน้ำจิ้มชาบู สุกี้ รสงาคั่ว ก็สามารถหาซื้อกันมาลองทานคู่กับชาบูได้
น้ำจิ้มชาบูแบบที่สอง คือ น้ำจิ้มพอนสึ คือ น้ำจิ้มสไตล์ญี่ปุ่นที่มีรสชาติเปรี้ยวเป็นหลัก ตามด้วยรสชาติหวานกลมกล่อม ซึ่งรสเปรี้ยวมาจากส่วนผสมของมะนาว หรือส้มยูซุ ผสมกับน้ำส้มสายชูเพื่อทำให้น้ำจิ้มสามารถเก็บรักษาได้นาน เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเลย และยังสามารถนำพริกสด กระเทียมสับ ใส่ลงไปน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น
น้ำจิ้มชาบูแบบที่สาม คือ น้ำจิ้มชาบู สไตล์ญี่ปุ่น ของแบรนด์เพียวฟู้ดส์ คือ มีรสชาติหวานเค็ม หอมเข้มข้น กลมกล่อม สไตล์ญี่ปุ่น วัตถุดิบแท้คัดสรรมาเป็นอย่างดี สามารถนำไปทานคู่กับชาบู ปิ้งย่างได้ หรือจะทานคู่กับกระทะร้อน ทำง่าย สะดวก ประหยัดเวลา เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบทำและชอบทานชาบู ยิ่งเป็นผู้ประกอบการร้านชาบู สามารถนำไปประกอบอาหารได้ กำไรดี ต้นทุนน้อย เคล็ดลับความอร่อยง่ายๆ เพียงแค่นำหมูชาบูที่สุกแล้วจุ่มน้ำจิ้มชาบู สไตล์ญี่ปุ่น ตราเพียวฟู้ดส์ ก็จะทำได้ลิ้มรสความอร่อยที่เข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งน้ำจิ้มชาบู สไตล์ญี่ปุ่น จะมีทั้งขนาด 150 กรัม และ 850 กรัมสามารถเก็บใน อุณหภูมิห้องได้นานถึง 6 เดือน ถ้าใครอยากลิ้มรสความอร่อยของน้ำจิ้มชาบู สไตล์ญี่ปุ่น ก็สามารถหาซื้อกันมาลองทานคู่กับชาบูได้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
น้ำจิ้มสุกี้มีหลายสูตร แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมและรสชาติ ซึ่งน้ำจิ้มสุกี้ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันและอยากจะแนะนำ คือ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง ,น้ำจิ้มสุกี้ สูตรชาบูเกาหลี และน้ำจิ้มสุกี้ สูตรหมาล่า ซึ่งแต่ละสูตรมีรสชาติ ความอร่อย ที่ไม่เหมือนกัน เรามาทำความรู้กับน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ด ตราเพียวฟู้ดส์ กันดีกว่าว่าแต่ละสูตรมีดีอย่างไร
น้ำจิ้มสุกี้สูตรแรก คือ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง ตราเพียวฟู้ดส์ เป็นน้ำจิ้มสุกี้ที่มีความหอมกลิ่มน้ำมันงา ไม่มีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้ รสชาติเผ็ดปานกลาง เหมาะสำหรับรับประทานกับเมนูสุกี้น้ำ หรือใช้ปรุงรสเมนูสุกี้ผัดแห้ง จิ้มกับอาหารลวก ทานคู่กับอะไรก็อร่อย เพียงแค่นำเนื้อสัตว์ที่ลวกแล้วไปจิ้มลงไปในน้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง ของเพียวฟู้ดส์ ก็จะได้ลิ้มรสถึงความอร่อย เข้มข้น กลมกล่อม
น้ำจิ้มสุกี้สูตรที่สอง คือ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรชาบูเกาหลี ตราเพียวฟู้ดส์ เป็นน้ำจิ้มสุกี้ที่มีรสชาติเผ็ดปานกลาง หอมกลิ่นน้ำมันงาขาว เหมาะสำหรับรับประทานเมนูสุกี้น้ำ หรือชาบู เพียงแค่นำเนื้อสัตว์ที่ต้มอยู่ในหม้อชาบูไปจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้ สูตรชาบูเกาหลี ของเพียวฟู้ดส์ ก็จะได้ลิ้มรสถึงความอร่อยครบรส สามารถนำไปประกอบอาหารเองได้ที่บ้าน สะดวกง่าย ประหยัด แนะนำให้ซื้อมาลองชิมทานคู่กับสุกี้ รับรองว่าจะติดใจ
น้ำจิ้มสุกี้สูตรที่สาม คือ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรหมาล่า ตราเพียวฟู้ดส์ เป็นน้ำจิ้มสุกี้ที่มีรสชาติเผ็ดร้อน หอมกลิ่นหมาล่า พริกหมาล่า ทานคู่กับชาบู สุกี้ หมูกระทะ เพียงแค่นำเนื้อหมูจิ้มลงไปในน้ำจิ้มสุกี้ สูตรหมาล่า เมื่อได้กินทำให้ลิ้มรสถึงความเผ็ดร้อนของหมาล่า แต่ยังอร่อยเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการกินเผ็ด สายหมาล่าพลาดไม่ได้แล้ว แนะนำให้ลองไปซื้อกันมาชิม รับรองคุ้มค่าแน่นอน
ซอสน้ำซุปชาบูสำเร็จรูป เหมาะสำหรับหลายๆคนที่ชื่นชอบกินชาบู แต่ไม่อยากไปนั่งทานที่ร้าน ทำที่บ้านง่ายๆ สะดวก ประหยัด เพียงแค่มีซอสน้ำซุปสำเร็จรูปแค่ถุงเดียวก็สามารถกินชาบูได้อย่างมีความสุข บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าซอสน้ำซุปยี่ห้อไหนดี อร่อย คุ้มค่า ทางเราจึงอยากแนะนำซอสน้ำซุปชาบูของเพียวฟู้ดส์ ที่มีหลากหลายรสชาติ หลากหลายสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงความหอมอร่อย ใครที่ชอบซดน้ำซุปเวลากินชาบูต้องไม่พลาดแล้ว ซอสซุปน้ำซุปชาบูที่จะแนะนำมีทั้งหมด 6 สูตร ลองมาดูกันว่าแต่ละสูตรจะมีรสชาติอย่างไรกันบ้าง
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรแรก คือ น้ำซุปชาบูเข้มข้น สูตรดั้งเดิม ตราเพียวฟู้ดส์ เป็นน้ำซุปชาบูที่ขายดีอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ หอมเข้ม มีส่วนผสมจากปลาแห้งญี่ปุ่นและซอสถั่วเหลืองจากญี่ปุ่น เพียงแค่ผสมซอส 1-2 ถ้วยตวง กับน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ก็จะได้น้ำซุปแสนอร่อย แล้วนำเนื้อสัตว์และผักใส่ลงไป คุณก็จะได้ลิ้มรสชาติที่กลมกล่อม อร่อย หอมหวาน เหมือนได้นั่งทานที่ร้านชาบู หรือจะเปิดร้านชาบู ต้นทุนน้อย กำไรดี สะดวก แถมประหยัดเวลาอีกด้วย เหมาะสำหรับ ทำน้ำซุปชาบู น้ำซุปยากิโซบะ น้ำซุปอูด้ง หรือแม้กระทั่งทำเป็นซอสทาพิซซ่าหน้าญี่ปุ่นได้
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรที่สอง คือ ซอสชาบูสุกี้สไตล์ญี่ปุ่น ตราเพียวฟู้ดส์ มีรสชาติกลมกล่อม อร่อยเข้มข้น สามารถใช้ทำชาบู สุกี้ หม้อไฟ เหมาะสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ทำง่ายๆ เพียงแค่นำซอสชาบูสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นผสมน้ำ แล้วเติมเนื้อสัตว์ ผักสด ลงไปในหม้อชาบู คุณก็จะได้กินชาบูสไตล์ญี่ปุ่นสุดแสนอร่อย ทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องง้อร้านชาบูอีกต่อไป แถมสะดวก ประหยัดเงินอีกด้วย
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรที่สาม คือ ซอสสำเร็จรูปเข้มข้น น้ำซุปสไตล์ชาบูทงคัตสึ ตราเพียวฟู้ดส์ มีกลิ่นหอมของกระดูกหมู เข้มข้น วัตถุดิบจากญี่ปุ่นแท้ๆ ความเป็นเอกลักษณ์ของทงคัตสึ นั่นก็คือ น้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูจนมีสีขาวข้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบทานชาบู สไตล์ญี่ปุ่น ถ้าเป็นซอสน้ำซุปขนาด 1,000 กรัม อัตราส่วนในการใช้ซอสที่แนะนำ คือ ควรใช้ซอส 100 กรัม ต่อน้ำ 1,000 มิลลิลิตร เมนูที่สามารถใช้ในการประกอบอาหารได้ เช่น เมนูชาบู เมนูราเมน และเมนูอูด้ง แนะนำให้ลองมาทำน้ำซุปง่ายๆ สะดวก ประหยัดเวลา สายชาบูทำเองที่บ้านห้ามพลาด
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรที่สี่ คือ ซอสน้ำซุปหมาล่า ตราเพียวฟู้ดส์ มีความหอมพริกหมาล่า รสชาติเผ็ดร้อนถึงเครื่องเทศจีน สไตล์ไชน่า เหมาะสำหรับทำน้ำซุปชาบู หมัก ย่าง ทา ทำน้ำจิ้ม หรือแม้กระทั่งทำเป็นซอสทาปิ้งย่างได้ เคล็ดลับความอร่อยสำหรับสายชาบู คือ นำเนื้อสัตว์ไปผัดลงไปในหม้อชาบูและใส่ต้นหอมญี่ปุ่นลงไป จากนั้นนำซอสหมาล่า ตราเพียวฟู้ดส์นำไปใส่ในหม้อชาบูที่เตรียมไว้ ใส่น้ำลงไปในหม้อ รอให้เดือด ถ้าเดือดแล้วก็ใส่เนื้อสัตว์และผักสดลงไปตามชอบได้เลย เพียงขั้นตอนที่ง่าย สะดวก ประหยัด ก็ทำให้เราได้ลิ้มรสชาติที่เผ็ดร้อน อร่อยคุ้มค่า สายหมาล่าไม่ควรพลาดซอสรสเด็ด
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรที่ห้า คือ ซุปชาบูเข้มข้น รสสไปซี่ สไตล์เกาหลี ตราเพียวฟู้ดส์ หอมเข้มซุปชาบูสไปซี่ เผ็ดแซ่บสไตล์เกาหลี รสชาติที่เข้มข้น อร่อยคุ้มค่า เหมาะสำหรับ ทำน้ำซุปชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง แค่ 2 ถ้วยก็อร่อยเข้มข้นเต็มหม้อ เพียงแค่ได้ซดน้ำซุปก็จะได้ลิ้มรสชาติความอร่อย แซ่บ เผ็ด โดยเราไม่ต้องปรุงเพิ่ม ครบภายในถุงเดียว ใครที่เป็นสายเผ็ดซี๊ด ต้องซื้อมาลองกัน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ซอสน้ำซุปชาบูสูตรที่หก คือ ชาบูน้ำดำ กลิ่นกระดูกหมูเห็ดหอม ตราเพียวฟู้ดส์ มีรสชาติเข้มข้นของชาบูน้ำดำหอมกลิ่นกระดูกหมูเห็ดหอม สามารถใช้ทำชาบู สุกี้ ได้ง่ายๆที่บ้าน หรือผู้ที่ประกอบธุรกิจร้านชาบู ก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้ ต้นทุนน้อย กำไรดี สะดวก ประหยัดเวลา เคล็ดลับง่ายๆ เพียงแค่นำชาบูน้ำดำ กลิ่นกระดูกหมูเห็ดหอม ตราเพียวฟู้ดส์ ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:10 แล้วเทลงในหม้อชาบู ก็จะได้น้ำซุปชาบูที่อร่อย หอม เข้มข้น เหมือนได้ไปนั่งทานที่ร้าน
จากที่ได้รีวิวซอสน้ำซุปชาบูสำเร็จรูป ตราเพียวฟู้ดส์ ทางเราก็หวังว่าการบอกเคล็ดลับความอร่อย โดยที่เราสามารถทำกินเองได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องไปนั่งทานที่ร้าน สามารถช่วยประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และยังเป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชื่นชอบการกินชาบู แต่ไม่อยากออกจากบ้าน , แม่บ้านยุคใหม่ และผู้ประกอบการที่อยากเปิดร้านชาบูยังเลือกไม่ได้ว่าจะใช้น้ำซุป หรือน้ำจิ้มชาบู แบบไหนที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามากินเยอะๆ ดังนั้นการที่เราได้รีวิวตัวน้ำจิ้มชาบู-สุกี้ และซอสซุปชาบูให้หลายๆคนได้รับรู้ก็หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลที่เราได้นำเสนอ
1 ก.ย. 2566
29 พ.ย. 2565
16 พ.ย. 2566
2 ส.ค. 2566